Control Structure
หลักการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์
โครงสร้างควบคุม (Control structure)
โปรแกรมทุกโปรแกรมสามารถเขียนขึ้นได้โดยใช้โครงสร้างมาทำการควบคุมเพียง 3 ชนิดเท่านั้น คือ
โครงสร้างตามลำดับ (Sequence
structure)
โครงสร้างทางเลือก (Selection
structure)
โครงสร้างการทำซ้ำ (Repetition structure)
โครงสร้างตามลำดับ (Sequence structure)
เป็นโครงสร้างของคำสั่งที่คอมพิวเตอร์จะทำงานไปตามลำดับที่เขียนไว้
ถ้าไม่ได้เปลี่ยนขั้นตอนการทำงานหรือมีเงื่อนไขเพิ่มเติม

โครงสร้างลักษณะนี้เป็นโครงสร้างพื้นฐานของผังงาน และเป็นลักษณะขั้นตอนการทำงานที่พบมากที่สุด คือทำงานทีละขั้นตอนลำดับ
ตัวอย่างผังงานที่มีโครงสร้างแบบเป็นลำดับ
ตัวอย่างผังงานที่มีโครงสร้างแบบเป็นลำดับ

จากตัวอย่างผังงานการคำนวณดอกเบี้ย สามารถอธิบายเป็นขั้นตอนได้ดังนี้
1.เริ่มต้นการทำงาน
2.รับค่าเงินต้น และอัตราดอกเบี้ยเพื่อใช้ในการคำนวณหาดอกเบี้ย
3.คำนวณหาดอกเบี้ยโดยใช้สมการต่อไปนี้
ดอกเบี้ย = เงินต้น * อัตราดอกเบี้ย
4.แสดงค่าของดอกเบี้ยซึ่งคำนวณได้
5.จบการทำงาน
โครงสร้างแบบมีตัวเลือก (Selection Structure)

โครงสร้างการทำงานแบบมีการเลือกมีรูปแบบที่ซับซ้อนกว่าโครงสร้างแบบเป็นลำดับรูปแบบที่ง่ายที่สุดของโครงสร้างแบบนี้คือ การเลือกแบบมีทางออก 2 ทาง ในการเลือกแบบมีทางออก 2 ทาง นี้จะมีทางออกจากสัญลักษณ์การตัดสินใจเพียง 2 ทาง คือ ใช่หรือไม่ใช่ เท่านั้น (แต่ระบบการเขียนผังงานระบบ อนุญาตให้มีทางออกจากการตัดสินใจได้มากกว่า 2 ทาง)

ตัวอย่างผังงานที่มีโครงสร้างแบบมีการเลือก
ผังงานการคำนวณดอกเบี้ยซึ่งมีอัตราดอกเบี้ย 2 อัตรา คือถ้าเงินต้นน้อยกว่า 1 ล้านบาท จะคิดดอกเบี้ยด้วยอัตราร้อยละ 4 แต่ถ้ามีเงินต้นมากกว่า 1 ล้านบาท จะคิดดอกเบี้ยด้วยอัตราร้อยละ 5
จากผังงานสามารถอธิบายเป็นขั้นตอนได้ดังนี้
1.เริ่มต้นการทำงาน
2.รับค่าเงินต้น
3.พิจารณาเงินต้นที่รับค่าเข้ามามากกว่า 1 ล้านบาทหรือไม่
- - ถ้าใช่ ให้คำนวณดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 5
ดังนั้น ดอกเบี้ย = เงินต้น * 0.05
- - ถ้าไม่ใช่ ให้คำนวณดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 5
ดังนั้น ดอกเบี้ย = เงินต้น * 0.04
4.แสดงค่าดอกเบี้ยที่คำนวณได้
5.จบการทำงาน
จากผังงานสามารถอธิบายเป็นขั้นตอนได้ดังนี้
1.เริ่มต้นการทำงาน
2.รับค่าเงินต้น
3.พิจารณาเงินต้นที่รับค่าเข้ามามากกว่า 1 ล้านบาทหรือไม่
- - ถ้าใช่ ให้คำนวณดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 5
ดังนั้น ดอกเบี้ย = เงินต้น * 0.05
- - ถ้าไม่ใช่ ให้คำนวณดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 5
ดังนั้น ดอกเบี้ย = เงินต้น * 0.04
4.แสดงค่าดอกเบี้ยที่คำนวณได้
5.จบการทำงาน
โครงสร้างแบบทำซ้ำ (Iteration Structure)

โครงสร้างการทำงานแบบทำซ้ำ จะทำงานแบบเดียวกันซ้ำไปเรื่อย ๆ ในขณะที่ยังเป็นไปตามเงื่อนไขหรือเงื่อนไขเป็นจริง จนกระทั้งเงื่อนไขเป็นเท็จจึงทำงานอื่นต่อไป
ตัวอย่างผังงานที่มีโครงสร้างแบบทำซ้ำ
ผังงานการคำนวณยอดบัญชี (เงินต้นทบดอกเบี้ย)
ตัวอย่างผังงานที่มีโครงสร้างแบบทำซ้ำ
ผังงานการคำนวณยอดบัญชี (เงินต้นทบดอกเบี้ย)

จากตัวอย่างผังงานสามารถอธิบายเป็นขั้นตอนได้ดังนี้
1.เริ่มต้นการทำงาน
2.รับค่าเงินต้น อัตราดอกเบี้ย และจำนวนปีที่ฝากเงิน ซึ่งเป็นข้อมูลที่จำเป็นในการคำนวณยอดบัญชี (เงินต้นทบดอกเบี้ยตามจำนวนปี ที่ฝากเงิน)
3.กำหนดให้ n มีค่าเท่ากับ 0 ในผังงานนี้ n คือจำนวนรอบของการคิดดอกเบี้ย
4.กำหนดยอดบัญชีเริ่มต้นให้เท่ากับเงินต้นที่รับค่าเข้ามา
5.เปรียบเทียบว่า n น้อยกว่าจำนวนปีที่ฝากเงินหรือไม่
5.1 ถ้าใช่ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- คำนวณยอดบัญชีใหม่โดยทบดอกเบี้ยเพิ่มเข้าไปจากยอดบัญชีเดิม
โดยใช้สมการต่อไปนี้
ยอดบัญชี = ยอดบัญชี + (ยอดบัญชี * อัตราดอกเบี้ย)
- เพิ่มค่า n ไปอีก 1
- กลับไปเปรียบเทียบเงื่อนไขในข้อ 5
5.2 ถ้าไม่ใช่ แสดงว่าคิดดอกเบี้ยทบต้นครบตามจำนวนปีที่ฝากเงินซึ่งรับค่าเข้ามาแล้วให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- แสดงค่ายอดบัญชีสุดท้ายที่คำนวณได้
- จบการทำงาน
1.เริ่มต้นการทำงาน
2.รับค่าเงินต้น อัตราดอกเบี้ย และจำนวนปีที่ฝากเงิน ซึ่งเป็นข้อมูลที่จำเป็นในการคำนวณยอดบัญชี (เงินต้นทบดอกเบี้ยตามจำนวนปี ที่ฝากเงิน)
3.กำหนดให้ n มีค่าเท่ากับ 0 ในผังงานนี้ n คือจำนวนรอบของการคิดดอกเบี้ย
4.กำหนดยอดบัญชีเริ่มต้นให้เท่ากับเงินต้นที่รับค่าเข้ามา
5.เปรียบเทียบว่า n น้อยกว่าจำนวนปีที่ฝากเงินหรือไม่
5.1 ถ้าใช่ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- คำนวณยอดบัญชีใหม่โดยทบดอกเบี้ยเพิ่มเข้าไปจากยอดบัญชีเดิม
โดยใช้สมการต่อไปนี้
ยอดบัญชี = ยอดบัญชี + (ยอดบัญชี * อัตราดอกเบี้ย)
- เพิ่มค่า n ไปอีก 1
- กลับไปเปรียบเทียบเงื่อนไขในข้อ 5
5.2 ถ้าไม่ใช่ แสดงว่าคิดดอกเบี้ยทบต้นครบตามจำนวนปีที่ฝากเงินซึ่งรับค่าเข้ามาแล้วให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- แสดงค่ายอดบัญชีสุดท้ายที่คำนวณได้
- จบการทำงาน